การเดินทางของอสรพิษ

การเดินทางของอสรพิษ 

โดยรถไฟฟรี  ที่ นครปฐม 

ตั๋วรถไฟฟรี 

สถานีนครปฐม 

ห้าโมงเย็นแล้วว

ขอมุมถ่ายรูปหน่อย 

เพื่อนร่วมทริป

นครปฐมมม

มาดามกล้วย 

ใบตอง

รอรถไฟมาาาา ห้าโมงสี่สิบ

ขอพื้นที่ของคนสวยหน่อย 

ณตสยองไงง

มุมเสย

บ๊ายบายนครปฐมม

จบแล้วววววว

เครปเค้กชาเขียว

เครปเค้กชาเขียว

ส่วนผสม

ส่วนผสม แป้งเครปชาเขียว
     • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2+1/2 ถ้วย
     • ผงชาเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
     • ไข่ไก่ 4 ฟอง
     • น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
     • นม 400 มิลลิลิตร
     • เนยละลาย 1/4 ถ้วย

ส่วนผสม ครีมชาเขียว
     • วิปปิ้งครีม 400 มิลลิลิตร
     • ผงชาเขียว 1/3 ถ้วย
     • น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย

วิธีทำ

  • ทำแป้งเครปชาเขียว โดยตีไข่ให้เข้ากัน และใส่น้ำตาลทรายลงไป คนพอละลาย ไม่ต้องตีให้ขึ้นฟู

• ทยอยใส่แป้งและผงชาเขียวลงในส่วนผสมไข่ แบ่งใส่ประมาณสี่รอบ อย่าใส่ทีเดียวหมดนะคะ เพราะจะทำให้เป็นเนื้อเดียวกันลำบาก

• คนจนเป็นเนื้อเดียวกัน จะได้แป้งหนืด ๆ หน่อย

• ค่อย ๆ เทนมใส่ลงในแป้ง แบ่งใส่ 3-4 รอบ คนให้เข้ากันจนไม่เหลือเม็ดแป้ง

 • ใส่เนยละลายลงไป คนให้เข้ากัน

 • กรองส่วนผสมทั้งหมด แล้วพักแป้งในตู้เย็นอย่างน้อย 4 ชั่วโมง หรือข้ามคืน

 • พอครบเวลาให้คนแป้งก่อนจะนำมาทอด โดยทาเนยที่กระทะเทฟลอน ใช้ไฟอ่อน เราใช้กระทะเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 6 นิ้ว หยอดส่วนผสมแป้งครั้งละ 1/4 ถ้วยตวง วิธีสังเกตว่าแป้งสุก คือ จะมีฟองอากาศใหญ่ ๆ ดันแผ่นแป้ง (ดังรูป)

  • ทอดจนแป้งหมด ตามสูตรนี้จะได้ประมาณ 20 แผ่นค่ะ พักไว้ให้แป้งเย็น

 • ทำครีมชาเขียว โดยตีวิปครีมและน้ำตาลทรายให้ตั้งยอดอ่อน

 • ใส่ผงชาเขียวลงไป ตีต่อให้เป็นเนื้อเดียวกัน

 • ประกอบเครปเค้กกัน โดยวางแผ่นแป้งชาเขียวสลับกับทาครีมชาเขียวลงไป ทำจนแป้งหมด

• นำไปแช่ตู้เย็นอย่างต่ำ 4 ชั่วโมง และหาอะไรมาคลุมเครปเค้กหน่อยนะคะ เดี๋ยวแป้งแผ่นบนจะหดจ้า

• ตกแต่งเค้ก โดยโรยผงชาเขียวลงบนเค้กบาง ๆ ถ้าโรยมากไปเดี๋ยวจะขม

 • เสร็จแล้ว ผ่าเค้กกัน

ราดหน้ามาม่าหมูสับทำจากไมโครเวฟ

ราดหน้ามาม่าหมูสับ

ทำโดยใช้ไมโครเวฟ

  เลิกกินมาม่าเติมน้ำร้อนแล้วมาทำมาม่าราดหน้าหมูสับ สูตรอาหารไมโครเวฟ ความอร่อยสุดแนว ฟินสุดในสามโลก 

ส่วนผสม มาม่าราดหน้าหมูสับ

     • บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รสหมูสับ

     • หมูบด

     • เต้าเจี้ยว (ในสูตรใช้มิโสะ) ไม่มีก็ไม่ต้องใส่

     • น้ำมันงา (หรือน้ำมันพืช)

     • แป้งท้าวยายม่อม (หรือแป้งมัน แป้งข้าวโพด)

     • น้ำเปล่า

     • แตงร้าน (หรือผักอย่างอื่นตามชอบ)

     หมายเหตุ : อาหารที่ทำด้วยไมโครเวฟทุกเมนู ใช้ไฟแรง 800 วัตต์ 

วิธีทำราดหน้าหน้าหมูสับ

     • นำเส้นบะหมี่ใส่น้ำเปล่าให้ท่วม แล้วนำเข้าไมโครเวฟไฟแรง 800 วัตต์ ประมาณ 3 นาที 
     • พอเส้นสุกก็เทน้ำออกแล้วคลุกด้วยน้ำมันงา (ไม่มีน้ำมันงาก็คลุกน้ำมันพืชธรรมดา) 
     • จากนั้นก็ตักใส่จาน รอน้ำราดหน้าค่ะ

       • นำหมูใส่ถ้วย บี้ ๆ นิดหนึ่ง แล้วก็นำเข้าไมโครเวฟ 1 นาที 

    • จากนั้นก็ใส่เครื่องปรุงของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกอย่าง ใส่เต้าเจี้ยวลงไป จากนั้นก็เติมน้ำและแป้งท้าวยายม่อมลงไป คนให้เข้ากัน นำเข้าไมโครเวฟ 3 นาที (พอครบ 2 นาทีให้เปิดฝาแล้วคน ๆ ให้แป้งที่เริ่มสุกด้านล่างไม่จับตัวเป็นก้อน แล้วนำเข้าไมโครเวฟต่ออีก 1 นาที) 

       • พอน้ำข้นแล้วก็ชิมปรุงรสเพิ่มตามชอบ หรือรสจัดไปก็เพิ่มน้ำตามชอบ

• เทน้ำราดหน้าลงไปบนเส้นบะหมี่ที่ลวกไว้แล้ว ตกแต่งหน้าด้วยแตงร้านหรืออื่น ๆ ตามใจชอบเลยจ้า

และนี่ก็คือหน้าตาของราดหน้าหน้าหมูสับ

การทำบราวนี่หน้ากรอบ

การทำบราวนี่หน้ากรอบ

เป็นขนมอีกอย่างหนึ่งที่อร่อยมาก

1 บราวนี่หน้ากรอบ

          สูตรบราวนี่สุดคลาสสิกขอแนะนำบราวนี่หน้ากรอบจากคุณ cake_de_cake สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม  สูตรนี้เพิ่มผงกาแฟลงไปด้วยทำให้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น หน้ากรอบเนื้อนุ่มหนึบ กินแบบอุ่น ๆ ก็อร่อย หรือจะกินแบบเย็นก็ได้อีกอารมณ์ค่ะ  

ส่วนผสม 
        ► เนยสดชนิดเค็ม 170 กรัม
        ► น้ำตาลทราย 280 กรัม
        ► Semi-Sweet Chocolate 340 กรัม
        ► แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
        ► ผงฟู 2 ช้อนชา
        ► ผงโกโก้ 1/4 ถ้วยตวง
        ► ไข่ไก่ (เบอร์ 1) จำนวน 4 ฟอง
        ► กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
        ► ผงกาแฟ 2 ช้อนโต๊ะ

        ► เนยขาวละลาย (สำหรับทาถาดอบ)

วิธีทำ

          1. เตรียมถาดสำหรับอบขนาด 9x13 นิ้ว ปูด้วยกระดาษไข และเพื่อป้องกันไม่ให้กระดาษไขเลื่อนให้ติดสกอตเทปตรงปลายกระดาษไขกับถาดอบเอาไว้ นำแปรงจุ่มเนยขาวที่ละลายแล้ว ทาบนกระดาษไขบริเวณพื้นถาด ไม่ต้องทาด้านข้าง
           2. นำเนยสดผสมกับน้ำตาลทราย นำเข้าไมโครเวฟให้เนยละลาย ใช้เวลาประมาณ 2 นาที (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับกำลังไฟของแต่ละบ้านนะคะ ให้ลองใช้เวลาน้อย ๆ ก่อน หากยังละลายไม่หมดค่อยเพิ่มเวลาเพื่อป้องกันการไหม้ค่ะ)
           3. ใช้ตะกร้อมือคนเพื่อให้น้ำตาลทรายละลายให้ได้มากที่สุด
           4. ใส่ช็อกโกแลตลงไปแล้วนำเข้าไมโครเวฟเพื่อละลาย ใช้เวลาประมาณ 2 นาที (ขึ้นอยู่กับกำลังไฟแต่ละบ้าน)
           5. ใช้ตะกร้อมือคนให้ช็อกโกแลตละลายเข้ากับส่วนผสมเนย พักให้เย็น
           6. ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู และผงโกโก้เข้าด้วยกัน 2 รอบ
           7. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง เปิดพัดลม เตรียมไว้
           8. ตอกไข่ไก่ใส่อ่างผสม ใส่น้ำหอมกลิ่นวานิลลาและผงกาแฟ ตีให้เข้ากันจนไข่ขึ้นเป็นฟอง (สามารถใช้ตะกร้อมือได้)
           9. ใส่ส่วนผสมช็อกโกแลตที่เย็นแล้วลงไป
           10. ตีผสมด้วยความเร็วปานกลางจนส่วนผสมช็อกโกแลตมีสีอ่อนลงเล็กน้อย หรือจนกว่าน้ำตาลทรายจะละลายได้พอสมควร (สูตรนี้จะยังคงเหลือน้ำตาลเป็นเกล็ด ๆ ไม่ละลายทั้งหมด)
           11. แบ่งแป้งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกใส่ลงไปตีผสมด้วยความเร็วต่ำ หรืออาจใช้ตะกร้อมือตะล่อมจนส่วนผสมเข้ากันดี
           12. ต่อมาจึงใส่แป้งส่วนที่ 2 ลงไปตีให้เข้ากัน
           13. เทลงในถาดอบแล้วนำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 30 นาที หรือจนกว่าเค้กจะสุก 
          14. เมื่อเค้กสุกนำออกจากเตามาผึ่งบนตะแกรงให้เย็น ตัดเป็นชิ้น ๆ ตามต้องการ วิธีตัดก็ให้นำบราวนี่ไปแช่เย็นเพื่อให้แข็งตัวก่อน แล้วนำออกมาตัดจะง่ายกว่าเดิมค่ะ 

ขั้นตอนการทำเครปเย็น

การทำเครปเย็นขาย

เครปเย็น อาหารว่างทำเงิน

เครปเย็นเป็นขนมที่กำลังมาแรงในเมืองไทยขณะนี้ โดนใจ ผู้ที่ชื่นชอบของกินเล่น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังอินเทรนด์ การเปิดร้านขายเครปเย็นจึงเป็นอะไรที่ ทำเงินได้ดีในเวลานี้
สำหรับใครที่กำลังมองหารายได้เสริม การเปิดร้านเครปเย็นน่าจะเป็นอีกหนึ่ง
ทางเลือก

การทำแป้งเครปมีส่วนผสมที่หลากหลาย ผู้ประกอบการต้องรักษาคุณภาพของสูตรการทำแป้ง
ให้ได้มาตรฐาน ซึ่งมีส่วนผสมง่ายๆ คือ แป้งสาลี ไข่ไก่ นมสด น้ำตาลทราย
เนยจืด เกลือ กลิ่นวานิลลาสังเคราะห์ แป้งที่ผสมออกมาแล้วจะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ
1. แบบนิ่มมากๆ (คล้ายไข่เจียว - แพนเค้ก) ทอดด้วยกระทะแบนธรรมดา แบบในครัวเรือนใช้
มีลักษณะม้วนหรือพับสอดไส้วางใส่จาน ราดครีม ไอศกีรม คัสตาร์ด ฯลฯ สำหญัทานด้วยมีดกับส้อม
2. แบบกึ่งนิ่มกึ่งเหนียว ผิวเนียนเรียบคล้ายขนมเบื้อง ตอนนิ่ม ขอบแป้งจะกรอบในตอน 1
นาทีแรกที่เสร็จใหม่ๆ ทอดด้วยแผ่นกระทะเหล็กกลม - แบนกว้างๆ ห่อไสัของหวาน ครีมสด คัสตาร์ดหรือ สลัดแฮม ฯลฯ
สำหรับไส้เครปเย็นจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
่

1.แบบของหวาน ได้แก่ ครีมคัสตาร์ด ครีมสด (วิปปิ้งคีรม ผล
ไม้สด ผลไม้เชื่อมกระป๋อง ไอศครีมรสต่างๆ่ กล้วยหอม คาราเมล
อัลมอนด์สไลด์ ซอสช็อกโกแล็ต เยลลี่ คุกกี้ โอริโอ้ คอนเฟล็ก
2.แบบอาหารว่าง ได้แก่ สลัดผัก แฮม เบคอน ชีส ทูน่ากระป๋อง มายองเนส ซอสพิซซ่า

เมนูฮิตที่ทุกร้านต้องมี
1. กล้วยหอม + สตรอเบอรี่ ครีมสด (วิปปิ้งครีม)
2. โอรีโอ้ + ครีมสด
3. กล้วยหอม + ช็อกโกแลต
4. เค้ก + ครีมสด
5. มะม่วง + ครีมสด
6. คอนเฟลก + ครีมสด
7. กี่ว + สตรอเบอรี่
8. ปีโป้ + ครีมคัสตาฑ์
9. เเบล็กเคอเรน + ครีมคัสตาร์ด
10. โกโก้ครั้นซ์ + ครีมสด
11. กล้วยหอม + ครีมใบเตย
12. อัลมอนด์สไลด์

การทำครีมสด
สูตรครีมสด
ส่วนผสม
ครีมสด 1000 cc.
น้ำตาลทรายละเอียด 100 กรัม

วิธี ทำ
ครีมสดต้องแช่เย็นก่อน แล้วจึงนำมาตีทันทีขณะที่ยังเย็นๆ อยู่ เทครีมสด ใส่ชามอ่างผสมกับ
น้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน ตีครีมสดไปในทางเดียวกันให้อากาศเข้า ขณะที่ครีมสดยังเย็นๆ อยู่ โดยเอา
อ่างอีกใบหนึ่ง ใส่น้ำกับน้ำเป้ข็งมารองก้นอ่างคีรมสดอีกที เพื่อรักษาระดับความเย็นของเนื้อคีรมเอาไว้
เมื่อตีครีมไปได้ 6 นาที ครีมจะเริ่มเซ็ตตัว เวลายกตระกร้อหรือตีครีมขึ้นมาครีมจะไหลเป็นทางหนืดต่อเนื่องเส้นเล็กๆ จากนี้ไปครีมจะเริ่มฟูขึ้นเรื่อยๆ ให้ตีต่อไป เมื่อตีไปได้ 7 นาที พอยกตรกร้อขึ้นมาจะเห็นเป็นคีรมฟูเกาะตัวตระหรือติดขึ้นมา เมื่อตีต่อไปได้ 8 นาที ก็จะเห็นเป็นครีมข้นฟูละเอียดจึงสามารถนำไปตกแต่งหน้าเค้กและ ขนม ได้

วิธีทำวิปปิ้งครีม
1. ใช้ขวดทำวิปครีมแบบอัดก๊าซ ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะใช้งานง่าย สะดวก
ประหยัด ไม่ยุ่งยาก เก็บรักษาได้นานหลายวัน เหมาะสำหรับวิปครีมแต่งหน้ากาแฟ เครื่องดื่มเย็น
ไอศกรีม เบเกอรี่ ผลไม้ ฯลฯ
2. การตีด้วยเครื่องตีเป็นวิธีที่ใช้มานาน วิธีที่ค่อนข้างยุ่งยาก ใช้เวลาพอสมควรต้องทำคราวละมากๆ ครีมที่เตรียมแล้วเก็บได้ไม่นาน เหมาะสำหรับการใช้งานปริมาณมากๆ หากตีแรงเกินไปครีมจะ
แข็งไม่เหมาะกับการแต่งหน้ากาแฟ จะเป็นที่นิยมในการแต่งหน้าเค้กและเบเกอรี่ต้องการ การอยู่ตัว
ของครีมนานๆ
3 วิปครีมแบบสำเร็จรูป เปนวิปครีมแบบผสมก๊าซแบบสำเร็จรูปนำเข้าจากต่างประเทศ ราคา
ค่อนข้างสูง ใช้งานง่าย ปรุงแต่งรสชาติไม่ได้ เหมาะสำหรับรับประทานในบ้าน หากนำมาใช้กับร้านกาแฟจะทำให้มีต้นทุนสูงเกินไป
วิปปิ้งคีรม ต้องใช้ในอัตราฟวนวิปปิ้งครีม 400 - 470 ซีซี อัดก๊าซวิปปิ้งคีรม 1 หลอต วิปปิ้งคีรม

อุปกรณ์ในการเปิดร้านเครปเย็น
1 เตาเครป (ไฟฟ้า) แผ่นกระทะเหล็กแบน 14 นิ้ว 2 เตา เตาละ 35,000 บาท
2. เตาเครป (แก๊ส) แผนกระทะเหล็กแบน 14 นิ้ว 2 เตา เตาละ 7,500 บาท
3. ไม้ปาดเครป (สเปคตูล่า)1 อันละ 100 บาท
4. เกรียงแชะแป้ง (เหล็ก) อันละ 35 บาท
5. เกรียงแชะแป้ง (สแตนเลส) อันละ 65 บาท
6. ไม้เกลี่ยหรือไม้หมุนแป้งไม้ปาด อันละ 300 บาท
7. ทัพพีกลม อันละ 200 บาท
8. มีด เล่มละ 55 บาท
9. เขียง อันละ 150 บาท
10. ถาดสแตนเลส ถาดละ 550 บาท
11. พัด อันละ 10 บาท
12. ตะเกียบยาวๆ (สำหรับช้อนแป้งขึ้น) คู่ละ 50 บาท
13. กระดาษห่อหรือกรวยกระดาษสำหรับใส่เครป ร้อยละ 75 บาท
*** ราคาอาจจะเปลี่ยนแปลงได้

ส่วนผสมแป้งเครปเย็น
แป้งสาลี 4 ถ้วย
ไข่ไก่ 4 ฟอง
นมสด 500 กรัม
เนยละลาย 200 กรัม
น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 250 กรัม
เกลือป่น 1 หยิบมือ
กลิ่นวานิลานิดหน่อย

วิธีทำแป้งเครปเย็น
1.เริ่มจากร่อนแป้งก่อน พักไว้ ทำการตีไข่ผสมนมสดหนึ่งส่วน ใส่น้ำตาล เกลือ และนมสดที่เหลือ
จนหมด จากนั้นค่อยๆ ใส่แป้งที่ร่อนลงในเครื่องปั่นให้เข้ากัน เติมเนยละลายทีละน้อยๆ จนหมด ปั่นไปประมาณ 10 นาที ใส่น้ำสะอาด และกลิ่นวานิลลา คนให้ส่วนผสมแป้งเข้ากันดี สังเกตว่าแป้งเนียนดีแล้ว เทใส่ภาชนะนำเข้าตู้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง

เมื่อต้องการทำเป็นเครป รอให้กระทะร้อนจนทั่ว ตักแป้งเทลงไปตรงกลาง เฉลี่ยแล้วหมุนวนไป
ทางเดียว เกลี่ยแป้งให้เสมอกัน ใช้ไฟปานกลาง พอแป้งสุกใช้เกรียงแซะออกมาวางลงถาด พักให้เย็น
นำวิปปิ้งครีมมาป้าย 1 ใน 5 ส่วน ใส่หน้าที่ต้องการ สตรอเบอรี่ผ่าเป็นสองซีก ส่วนกล้วยปอกเปลือกหั่นเป็นแว่นจัดให้สวยงาม ราดซอสเป็นการตบท้าย พับแป้งอีกให้คล้ายกรวย จากนั้นนำกระดาษหรือกรวยที่เตรียมไว้มาห่อ พร้อมรับประทาน

**
การกำหนดราคาขาย
ควรกำหนดราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 40 - 65 บาท ราคาขึ้นอยู่กับการผสมหน้าที่ใส่ และเป็นราคา
ขายที่คำนวณจากต้นทุนแล้ว ลูกค้าสามารถเลือกหน้าผสมได้ตามใจชอบ

น้องแผ่นดิน ปริศนาฟ้าแลบ

น้องแผ่นดิน

มาพบกับความน่ารักของน้องแผ่นดิน 

รักทุกคน55555

น้องแผ่นดินโชว์เต้น

น่ารักไปอีก

น่ารักที่สุดดดด

ยิ้ม5555

ช้างช้างช้าง

จมูกหายใจ555

พูดไม่ชัด555

แฟนน้องแผ่นดินน้องเนเน่

พบกับน้องแผ่นดินได้ที่ช่องเวิร์คพอยด์นะค่าาาา

ในรายการ ฟ้าแลบเด็ก

แล้วจะมีแต่ความฮา555555

สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดตราด

สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดตราด

1.เกาะช้าง

2.เกาะกูด 

3.เกาะหมาก 

4.น้ำตกสะพานหิน

5.เกาะไม้ชี้

6.หาดมุกแก้ว หรือ หาดทรายแก้ว

7.น้ำตกเขาสลัดได

8.หมู่เกาะรัง 

9.เกาะขาม 

10.อ่าวสลักเพชร 

และนี่คือสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดตราด

10 อันดับ อย่าลืมมาเที่ยวกันน้า